Individual Investors

  • Posted by:

    ThaiBMA
  • Posted on:

    Dec. 07, 2017
ประมวลผลสำรวจความเข้าใจด้านการเงินการลงทุนของประชาชนทั่วไป

“การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนโปรดศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุน” เป็นประโยคที่นักลงทุนหลายท่านคุ้นเคย แต่จะมีกี่ท่านที่ใส่ใจกับประโยคสั้นๆนี้บ้างในบรรดาสินทรัพย์ต่างๆที่นักลงทุนเลือกลงทุนเพื่อกระจายความเสี่ยง ไม่ว่าจะเป็นหุ้นสามัญ ตราสารหนี้ กองทุนรวม ประกันชีวิตทองคำ ค่าเงิน น้ำมันและอื่นๆ แต่ตราสารหนี้เป็นสินทรัพย์ที่นักลงทุนไม่ค่อยมีความเข้าใจมากนัก แม้ว่าจะเป็นสินทรัพย์ลงทุนหนึ่งที่นักลงทุนควรมีไว้ในพอร์ตอย่างน้อยก็ในสัดส่วนที่รองรับกับการใช้จ่ายที่จำเป็นในชีวิตเนื่องจากการลงทุนในตราสารหนี้“จะได้รับดอกเบี้ยตามจำนวนที่แน่นอน คงที่ ตามกำหนดเวลาเมื่อครบกำหนดเวลาก็ได้เงินต้นคืน มีความผันผวนต่ำ ผลตอบแทนดีกว่าฝากธนาคาร”

สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย(ThaiBMA) จึงได้จัดทำการสำรวจ Financial Literacy Surveyเพื่อประเมินความเข้าใจด้านการเงินการลงทุนของบุคคลทั่วไป โดยนำเค้าโครงแบบสอบถามของธนาคารกลางญี่ปุ่นมาปรับแก้ให้เหมาะสมกับบริบทของประเทศไทยแบบสำรวจแบ่งเป็นความเข้าใจเกี่ยวกับการเงินทั่วไป และความเข้าใจเกี่ยวกับตราสารหนี้ โดยทำการสำรวจทาง online ผ่านสื่อ social media ซึ่งผลการสำรวจพบประเด็นที่น่าสนใจดังนี้

ระดับการศึกษาและรายได้เป็นปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ในทิศทางเดียวกันกับระดับความเข้าใจด้านการเงินการลงทุนกลุ่มตัวอย่างที่ระดับการศึกษาสูงขึ้น หรือรายได้สูงขึ้น จะมีความเข้าใจการเงินการลงทุนดีขึ้นตามไปด้วยนอกจากนี้ กลุ่มตัวอย่างที่มีความถี่ในการรับข้อมูลข่าวสารสูงไม่ว่าจะเป็นการฟังวิทยุ อ่านจากสื่อonline หรือช่องทางอื่นๆ ก็จะมีความเข้าใจด้านการเงินการลงทุนมากกว่าผู้ที่ไม่ค่อยได้ติดตามข่าวสาร

ในการลงทุนตราสารหนี้ กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับอัตราผลตอบแทนมากที่สุด มีเพียงสองกลุ่มที่ให้ความสำคัญกับอันดับเครดิต/ความเสี่ยงมากกว่าอัตราผลตอบแทน คือ กลุ่มตัวอย่างที่มีการศึกษาสูง(สูงกว่าป.ตรี)และกลุ่มตัวอย่างที่เป็นเจ้าของกิจการ

78% ของกลุ่มตัวอย่างมีความเข้าใจภาพรวมการเงินการลงทุนในระดับค่อนข้างดีคือมีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับ อัตราเงินเฟ้อ การกระจายความเสี่ยง ความสัมพันธ์ระหว่างความเสี่ยงและผลตอบแทน รวมถึงอัตราดอกเบี้ยทบต้น

จากการสำรวจพบว่าคนที่มีความเข้าใจด้านการเงินทั่วไปก็อาจไม่ได้มีความรู้ความเข้าใจด้านตราสารหนี้ 44% ของกลุ่มตัวอย่างมีความเข้าใจด้านการเงินทั่วไปเป็นอย่างดี แต่มีเพียง 23%ของกลุ่มตัวอย่างที่มีความเข้าใจเกี่ยวกับตราสารหนี้

• เมื่อให้กลุ่มตัวอย่างทำการประเมินความเข้าใจด้านการเงินโดยรวมของตนเอง พบว่าส่วนใหญ่ประเมินว่าตนเองพอมีความเข้าใจบ้าง (54%)รองลงมาประเมินว่าตนเองมีความเข้าใจอย่างดี (28%) และส่วนน้อยที่ประเมินว่าตนเองไม่เข้าใจเลย (18%)

แต่ 1 ใน 4 ของกลุ่มที่ประเมินว่าตนเองเข้าใจด้านการเงินอย่างดีกลับยังขาดความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับตราสารหนี้ เช่น ไม่รู้ว่าการลงทุนตราสารหนี้ภาคเอกชนก็สามารถขาดทุนได้ หรือ ไม่เข้าใจว่าอันดับเครดิตแต่ละอันดับมีความแตกต่างกันอย่างไร

ประเด็นหนึ่งจากการสำรวจที่น่าสนใจคือกลุ่มที่ขาดความรู้พื้นฐานตราสารหนี้แต่ประเมินว่าตนเองมีเข้าใจอย่างดี และบางส่วนของกลุ่มที่ประเมินว่าตนเองพอเข้าใจบ้างกลับมีการลงทุนในตราสารหนี้คิดเป็นสัดส่วนรวมกันถึง24% ซึ่งน่าเป็นห่วงว่าคนกลุ่มนี้อาจลงทุนไปโดยขาดความรู้ความเข้าใจ ทำให้อัตราผลตอบแทนที่คาดหวังไม่สัมพันธ์กับความเสี่ยงที่ได้รับ คนกลุ่มนี้จึงจำเป็นต้องศึกษาเกี่ยวกับตราสารหนี้เพิ่มขึ้นเพื่อประโยชน์ในวางแผนและจัดสรรพอร์ตลงทุนให้ตอบสนองเป้าหมายของตนเองในอนาคต

การสำรวจนี้ มีผู้ตอบแบบสอบถามกลับมาจำนวน 585 ชุด จากประชาชนหลากหลายอาชีพ ทั่วทุกภูมิภาคของประเทศซึ่งแม้จะเห็นได้ว่า คนส่วนใหญ่ที่ตอบแบบสอบถามพอจะมีความรู้ด้านการเงินการลงทุนอยู่บ้างแล้ว แต่ก็ยังขาดความรู้เรื่องตราสารหนี้อยู่มาก ซึ่ง ThaiBMAจะนำผลที่ได้จากการสำรวจไปจัดทำเนื้อหาและการนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับตราสารหนี้เพื่อเผยแพร่ให้ความรู้แก่บุคคลทั่วไปต่อไป

เรารู้จักตราสารหนี้มากแค่ไหนนะ?

จากผลสำรวจความเข้าใจด้านการเงินการลงทุนของประชาชนทั่วไป พบว่าส่วนใหญ่มีความรู้ด้านการเงินการลงทุนอยู่บ้างแล้ว คือมีความรู้เรื่องอัตราเงินเฟ้อ ผลตอบแทนและความเสี่ยง การกระจายความเสี่ยง รวมถึงดอกเบี้ยทบต้น แต่ยังขาดความรู้เรื่องตราสารหนี้อยู่มาก เช่น ไม่เข้าใจเกี่ยวกับอันดับเครดิต รวมไปถึงความเสี่ยงของการลงทุนในตราสารหนี้ จากที่กลุ่มตัวอย่างบางส่วนคิดว่าตนเองมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับตราสารหนี้ดี แต่ในความเป็นจริงแล้วยังขาดความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับตราสารหนี้อยู่มาก ทำให้เกิดการลงทุนในตราสารนี้โดยขาดความรู้ความเข้าใจซึ่งอาจส่งผลกระทบต่ออัตราผลตอบแทนและความเสี่ยงที่ได้กำหนดไว้ หลายๆท่านในที่นี้อาจจะกำลังสงสัยว่าตนเองมีความรู้ความเข้าใจพื้นฐานด้านตราสารหนี้มากน้อยแค่ไหนถ้ายังไม่แน่ใจ มาลองมาทดสอบเบื้องต้นด้วยการตอบคำถามข้างล่างกันดีกว่าค่ะ

1. การลงทุนในตราสารหนี้ภาคเอกชนถือว่ามีความปลอดภัยสูง แต่ก็มีโอกาสขาดทุนได้ หากผู้กู้ไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนด( • ถูก • ผิด )

2. ตราสารหนี้ภาคเอกชนที่มีอันดับเครดิต AAA มีโอกาสผิดนัดชำระหนี้สูงกว่า AA+ ( • ถูก • ผิด )

3. ตราสารหนี้ชนิดใดปลอดภัยที่สุด? ( • พันธบัตรรัฐบาล • พันธบัตรรัฐวิสาหกิจ • หุ้นกู้เอกชน )

เฉลย: ข้อ1) ถูก ข้อ2) ผิด ข้อ3) พันธบัตรรัฐบาล

เป็นยังไงกันบ้างคะ ตอบได้กันหรือเปล่า ถ้าตอบถูกทั้ง 3 ข้อ แปลว่าคุณเป็นนักลงทุนที่มีความเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับตราสารหนี้เบื้องต้นแล้วถ้าท่านใดตอบถูก 1-2ข้อ แปลว่าคุณพอมีความรู้เกี่ยวกับตราสารหนี้อยู่บ้าง ควรทำความเข้าใจในระดับที่สูงขึ้นเพื่อเพิ่มโอกาสและผลตอบแทนจากการลงทุนในตราสารหนี้ แต่ถ้าท่านใดยังตอบไม่ได้เลย ก็ไม่ต้องกังวลไปนะค่ะ สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทยจะนำเสนอความรู้ด้านการลงทุนตราสารหนี้ให้แก่บุคคลทั่วไป ตั้งแต่ระดับผู้เริ่มต้นลงทุน จนถึงระดับนักลงทุนมืออาชีพ สามารถติดตามได้ทางหน้าเว็บ www.thaibma.or.th ที่มุมการศึกษา (Education Corner) หรือจะติดตามทาง Facebook @ fbthaibmaเพื่อเราจะได้ลงทุนอย่างชาญฉลาดเป็น Smart Investors กันค่ะ

All Blogs