Individual Investors

  • Posted by:

    ThaiBMA
  • Posted on:

    July 21, 2017
ความเสี่ยงหลัก5 ข้อในการลงทุนตราสารหนี้

การลงทุน ไม่ว่าจะลงทุนในหุ้นหรือในตราสารหนี้ก็มีความเสี่ยงแต่เสี่ยงคนละแบบ ถ้าอยากได้ผลตอบแทนสูง นอกจากจะลงทุนในจำนวนมากขึ้นแล้วยังลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงขึ้นด้วยมูลค่าการลงทุนเท่าเดิม ก็ทำให้มีโอกาสได้ผลตอบแทนสูงขึ้นเป็นไปตามหลักการลงทุน High risk high returnความเสี่ยงจากการลงทุนในตราสารหนี้มีหลากหลาย แต่ความเสี่ยงบางอย่างก็ป้องกันและหลีกเลี่ยงได้ โดยความเสี่ยงหลักๆจากการลงทุนในตราสารหนี้มีด้วยกัน 5ด้าน คือ

1. ความเสี่ยงในการผิดนัดชำระหนี้ (Credit/Default Risk)ความเสี่ยงในการผิดนัดชำระหนี้ เป็นความเสี่ยงที่บริษัทผู้ออกตราสารหนี้เกิดวิกฤติ ที่ทำให้ไม่สามารถชำระดอกเบี้ยหรือเงินต้นคืนได้ ทำให้นักลงทุนอาจจะไม่ได้รับเงินคือ หรือได้รับไม่เต็มจำนวนความเสี่ยงนี้ถือเป็นความเสี่ยงหลักของการลงทุนในตราสารหนี้

2. ความเสี่ยงจากสภาพคล่อง (Liquidity Risk) เกิดขึ้นจากการที่ตราสารหนี้นั้นไม่มีสภาพคล่องในตลาดในกรณีที่นักลงทุนต้องการจะขายตราสารหนี้ ก็อาจขายไม่ได้ในเวลาที่ต้องการ หรือขายไม่ได้ ณ ราคาที่ต้องการ เช่น ราคาที่ขายจริงต่ำกว่าราคาที่ควรจะเป็น หากนักลงทุนมีความประสงค์ที่จะถือตราสารหนี้ไปจนครบกำหนด ก็ไม่ต้องกังวลกับความเสี่ยงนี้

3. ความเสี่ยงของอัตราดอกเบี้ย (Interest rate Risk)ความเสี่ยงจากอัตราดอกเบี้ยคือ ความเสี่ยงจากการที่ราคาตราสารหนี้จะลดลงเมื่ออัตราดอกเบี้ยเปลี่ยนแปลง เนื่องจากราคาตราสารหนี้จะแปรผกผันกับอัตราดอกเบี้ยแต่ถ้าถือตราสารจนครบกำหนดอายุ จะไถ่ถอนได้ตามราคาหน้าตั๋วเสมอ ดังนั้นนักลงทุนสามารถหลีกเลี่ยงความเสี่ยงนี้ได้โดยการถือตราสารจนครบกำหนดอายุ

4. ความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ (Inflation Risk) คือ หากลงทุนในตราสารหนีที่ให้ผลตอบแทนคงที่ ในขณะที่เงินเฟ้อสูงขึ้นเรื่อยๆ จะส่งผลให้อัตราผลตอบแทนที่แท้จริงลดลงความเสี่ยงนี้อาจหลีกเลี่ยงได้ โดยการลงทุนในตราสารหนี้ชดเชยเงินเฟ้อ หรือตราสารหนี้อัตราดอกเบี้ยลอยตัว เป็นต้น

5. ความเสี่ยงจากการนำเงินไปลงทุนต่อ (Reinvestment Risk)เกิดขึ้นในกรณีที่นักลงทุนได้รับเงินต้นหรือดอกเบี้ยแล้วนำไปลงทุนต่อได้ที่อัตราดอกเบี้ยต่ำลงเป็นความเสี่ยงที่มีน้ำหนักมากขึ้นในช่วงดอกเบี้ยขาลง และการลงทุนใน Callable Bond ที่เมื่ออัตราดอกเบี้ยลดลง ผู้ออกจึงมักใช้สิทธิไถ่ถอนตราสารก่อนกำหนด เพื่อลดต้นทุนการจ่ายดอกเบี้ย และทำการออกตราสารหนี้ชุดใหม่ทดแทน ในอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่า ทำให้นักลงทุนเกิดความเสี่ยงในการนำเอาเงินไปลงทุนต่อในผลตอบแทนที่ลด

หลังจากที่พอจะทราบถึงความเสี่ยงแต่ละชนิดกันแล้ว นักลงทุนควรเลือกลงทุนในตราสารหนี้ที่ท่านสามารถรับความเสี่ยงได้ และเหมาะสมกับนโยบายการลงทุนของท่าน ขอให้โชคดีครับ!

All Blogs