Bond Blogs Posted by:ThaiBMA Posted on:Sep. 27, 2021 Share this post with Perpetual Bond กับลักษณะเฉพาะที่ผู้ออกต้องจ่ายดอกเบี้ยสูง Perpetual Bond เป็นตราสารหนี้ที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน เนื่องจากเป็นตราสารหนี้ที่ให้อัตราดอกเบี้ยสูงกว่าตราสารหนี้ทั่วไปมาก ซึ่งดอกเบี้ยที่สูงนี้ก็มาพร้อมกับลักษณะเฉพาะหรือเงื่อนไขบางอย่างที่ทำให้ตราสารหนี้ชนิดนี้มีความเสี่ยงสูงขึ้นนั่นเอง วันนี้เราจะมาแจกแจงลักษณะเฉพาะของ Perpetual Bond กันทีละข้อ ได้แก่ 1. ไถ่ถอนเมื่อเลิกบริษัท: ตราสารหนี้ทั่วไปจะกำหนดเวลาไถ่ถอนที่ชัดเจน แต่ Perpetual Bond (Perp) จะไม่กำหนดวันไถ่ถอนไว้ โดยผู้ออกจะทำการไถ่ถอนเมื่อเลิกบริษัท ดังนั้นอาจมีอายุยาวนานเป็นร้อยปีก็ได้จึงจะเลิกบริษัท และหากถ้าต้องเลิกบริษัท ผู้ออกก็อาจมีเงินไม่พอที่จะมาไถ่ถอนหุ้นกู้ Perp ก็ได้ นักลงทุนจึงมีความเสี่ยงที่อาจจะได้รับเงินต้นคืนช้ามากๆ หรือได้ไม่ครบจำนวน ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะที่มีความใกล้เคียงกับทุน 2. สิทธิไถ่ถอนก่อนกำหนด: การลงทุนใน Perpetual Bond ที่ไม่มีกำหนดวันไถ่ถอนจึงอาจไม่เป็นที่สนใจของนักลงทุนนัก ดังนั้น Perpetual Bond ส่วนใหญ่จึงกำหนดให้ผู้ออกมีสิทธิไถ่ถอนคืนก่อนกำหนด (Call option) เช่น วันครบกำหนด 5 ปี นับจากวันออกหุ้นกู้หรือวันชำระดอกเบี้ยหุ้นกู้แต่ละครั้ง ภายหลังจากปีที่ 5 โดยปกติผู้ออกมีแรงจูงใจหลายอย่างในการไถ่ถอนก่อนกำหนด แรงจูงใจหลักข้อหนึ่งมาจากหลักเกณฑ์ของบริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่จะนับเป็นทุนครึ่งหนึ่งในช่วง 5 ปีแรก หลังจากนั้นจะถูกนับเป็นหนี้ทั้งจำนวน บริษัทส่วนใหญ่จึงมักจะไถ่ถอน Perpetual Bond เมื่ออายุครบ 5 ปีเพื่อมิให้อัตราส่วน Debt to equity (DE ratio) สูงขึ้น และเพื่อหลีกเลี่ยงอัตราดอกเบี้ยที่จะปรับสูงขึ้นเมื่อครบ 5 ปี ตามที่กำหนดไว้ และที่สำคัญนักลงทุนอาจเกิดความเข้าใจผิดได้ต่อสถานะทางการเงินของบริษัทหากไม่เรียกไถ่ถอนก่อนกำหนด บริษัทจึงมักใช้สิทธิไถ่ถอนก่อนกำหนดและออกหุ้นกู้ Perp รุ่นใหม่มาทดแทน แม้ว่าบางครั้งอัตราดอกเบี้ยจะสูงขึ้นก็ตาม อย่างไรก็ดีในทางกฎหมายบริษัทไม่มีข้อผูกพันที่จะต้องไถ่ถอนก่อนกำหนด ดังนั้นนักลงทุนจึงควรตระหนักถึงความเสี่ยงที่จะได้รับเงินต้นคืนช้า ไม่อย่างนั้น นักลงทุนก็ต้องทำการขายในตลาดรองหากไม่ต้องการถือต่อ ซึ่งตลาดรองของหุ้นกู้ Perp มีสภาพคล่องที่ค่อนข้างจำกัด ทำให้ต้องใช้เวลานานหรือขายได้ที่ราคาไม่ดีตามที่คาดหวัง ทั้งนี้ในทางบัญชีจะถือว่าเงินทุนที่ได้จากการออก Perpetual Bond สามารถนับเป็นทุนได้ทั้งจำนวนตลอดไปถ้าระบุเงื่อนไขการชำระคืนเงินต้นให้เป็นไปตามมาตรฐานบัญชีฉบับที่ 32 กล่าวคือ การชำระคืนเงินต้นจะเกิดจากการชำระบัญชีเพื่อเลิกกิจการเท่านั้น ไม่รวมถึงกรณีที่ผู้ออกล้มละลาย เข้าสู่แผนฟื้นฟูกิจการ หรือถูกพิทักษ์ทรัพย์ 3. สามารถเลื่อนการชำระดอกเบี้ยได้โดยไม่มีเงื่อนไข: ปกติตราสารหนี้ทั่วไปจะต้องจ่ายดอกเบี้ยตรงเวลาที่กำหนดไว้เสมอ แต่สำหรับ Perpetual Bond ผู้ออกมีสิทธิเลื่อนการจ่ายดอกเบี้ยออกไปได้แม้ว่าบริษัทจะมีกำไร ซึ่งเป็นลักษณะที่ใกล้เคียงกับหุ้นบุริมสิทธิที่ถือว่าเป็นส่วนของทุน หุ้นกู้ Perp จึงมีชื่อเป็นทางการว่า “ตราสารหนี้ด้อยสิทธิคล้ายทุน” ทั้งนี้การเลื่อนการชำระดอกเบี้ยนี้จะทำให้นักลงทุนได้ผลตอบแทนเฉลี่ยของการลงทุนต่ำลง ยิ่งถ้าเลื่อนการจ่ายดอกเบี้ยออกไปนานเท่าไรผลตอบแทนเฉลี่ยก็จะยิ่งลดลงมากเท่านั้น แต่หากบริษัทเลื่อนชำระดอกเบี้ยหุ้นกู้ Perp บริษัทจะไม่สามารถจ่ายปันผลให้ผู้ถือหุ้นได้ และการเลื่อนชำระดอกเบี้ยอาจทำให้บริษัทเสียชื่อเสียงได้ ดังนั้นถ้าบริษัทไม่มีปัญหาจริงๆ ก็น่าจะจ่ายดอกเบี้ยตรงตามเวลาที่กำหนดไว้ 4. เป็นตราสารหนี้ด้อยสิทธิ: หมายความว่าหากบริษัทล้มละลาย ผู้ถือตราสารหนี้ด้อยสิทธิจะมีสิทธิเรียกร้องทางกฎหมายในการได้รับชำระหนี้คืนเป็นลำดับที่ 3 ถัดจากผู้ถือตราสารหนี้มีประกัน (Secured Bond) และผู้ถือตราสารหนี้ไม่ด้อยสิทธิ (Senior Bond) ดังนั้นผู้ถือตราสารหนี้ด้อยสิทธิอาจได้รับการชำระคืนไม่เต็มจำนวน หรือหากบริษัทไม่มีทรัพย์สินเหลือเลย ผู้ถือตราสารหนี้ด้อยสิทธิก็อาจจะไม่ได้รับเงินคืนเลย ผู้ถือ Perpetual Bonds จึงมีความเสี่ยงที่อาจไม่ได้รับเงินคืนสูงกว่าตราสารหนี้ทั่วไป 5. หุ้นกู้ Perp ไม่มีคุณสมบัติเรื่องการผิดนัดไขว้ (Cross-default) ที่มักจะกำหนดไว้ในหุ้นกู้ทั่วไป ดังนั้นหากผู้ออกมีการผิดนัดไขว้ หรือมีการผิดนัดชำระหุ้นกู้รุ่นอื่น สัญญาทางการเงินอื่น หรือ เจ้าหนี้อื่น ก็จะไม่ทำให้ผู้ออกเข้าเงื่อนไขของการผิดนัดชำระภายใต้หุ้นกู้ Perp นี้ ดังนั้น ผู้ถือหุ้นกู้ Perp จะไม่มีสิทธิเรียกร้องให้ผู้ออกต้องชำระคืนเงินต้นและดอกเบี้ย ซึ่งจะทำให้ผู้ถือหุ้นกู้ Perp เสียเปรียบเจ้าหนี้รายอื่นเนื่องจากเมื่อผู้ออกผิดนัดชำระหนี้เจ้าหนี้อื่น อาจทำให้เจ้าหนี้รายนั้นมาเรียกร้องให้ชำระหนี้ก่อน ที่อาจส่งผลให้ผู้ออกขาดสภาพคล่อง ผู้ถือหุ้นกู้ Perp จึงมีความเสี่ยงที่จะไม่ได้รับดอกเบี้ยโดยผู้ออกอาจทำการเลื่อนการจ่ายดอกเบี้ยออกไป หรืออาจมีความเสี่ยงถึงขั้นได้รับชำระเงินต้นไม่ครบจำนวนหากบริษัทต้องเลิกกิจการไป จากลักษณะสำคัญทั้ง 5 ข้อที่กล่าวมา จะเห็นได้ว่า Perpetual Bond มีความเสี่ยงสูงกว่าหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิโดยทั่วไป รวมถึงมีสภาพคล่องในตลาดรองค่อนข้างต่ำ นักลงทุนจึงควรเข้าใจถึงความเสี่ยงที่สูงขึ้นเหล่านี้เพื่อจะได้พิจารณาผลตอบแทนให้คุ้มค่ากับความเสี่ยงที่ได้รับ All Blogs 2024 ตราสารหนี้เพื่อการอนุรักษ์เสือโคร่ง (Tiger ecosystem bond) 30 ปี ThaiBMA เส้นทางการพัฒนาตลาดตราสารหนี้ไทย CAT Bond ตราสารหนี้ภัยพิบัติ แนวโน้มหุ้นกู้ครบกำหนดอายุ Highlight ตลาดตราสารหนี้ไทยปี 2023 2023 สาระสำคัญจากงานสัมมนา “Enable ESG Bond Issuance: Global Dynamic & Thailand Framework Development” การถือครองตราสารหนี้ไทยของนักลงทุนต่างชาติ Facts: หุ้นกู้ครบกำหนดในปีหน้า (2024) Par Value คืออะไร พัฒนาการของตลาด ESG Bonds ของไทยเปรียบเทียบกับยุโรป 5 ปีผ่านไป ตลาดหุ้นกู้เปลี่ยนไปขนาดไหน ถ้าผู้ออกหุ้นกู้ถูกฟ้องล้มละลาย ผู้ถือหุ้นกู้ต้องทำอย่างไร ลงทุนในหุ้นกู้ต้องรู้จักอันดับเครดิต Highlight Q2 2023 "ESG bonds ในอาเซียน+3 ข้อดี-ข้อเสีย ของการลงทุนในตราสารหนี้...มีอะไรบ้าง 5 สิ่งควรรู้ก่อนลงทุนตราสารหนี้ การออก ESG Bond ของไทย Transition bond ตราสารหนี้เปลี่ยนผ่านสู่ความยั่งยืน IC Bond ตราสารหนี้เพื่อนับเป็นเงินกองทุนของบริษัทประกันภัย สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับเส้นอัตราผลตอบแทน (Yield curve) Basis Points คืออะไร - ต่างจากเปอร์เซ็นต์อย่างไร? ลงทุนตราสารหนี้ต้องจ่ายภาษีไหม อยากรู้ว่าหุ้นกู้มีการซื้อขายบ้างไหม ราคาซื้อขายเป็นยังไง จะดูได้ที่ไหน 2022 เช็กราคาซื้อขายล่าสุด หรือราคา mark to market ของหุ้นกู้ได้ที่ไหน การซื้อขายหุ้นกู้ในตลาดรอง คำนวณราคายังไง ทำไมหุ้นกู้คราวด์ฟันดิงถึงให้ผลตอบแทนสูง ต่างจากหุ้นกู้ปกติอย่างไร สัญลักษณ์ตราสารหนี้...อ่านอย่างไรและบอกอะไรบ้าง Breakeven Inflation คืออะไร? และ บอกอะไร? BOND INFO แหล่งรวมข้อมูลตราสารหนี้ไทย ตอน รู้จักหุ้นกู้กับเมนู “Issuer Search” รู้จัก Basel III Bond หุ้นกู้เพื่อนับเป็นเงินกองทุนของธนาคารพาณิชย์ Baht bond คืออะไร ต่างจากหุ้นกู้ปกติไหม? ทางเลือกการลงทุนในยุคเงินเฟ้อสูง...พันธบัตรชดเชยเงินเฟ้อ (Inflation Linked Bond) ตราสารหนี้ผลตอบแทนติดลบกำลังจะ “สูญพันธุ์” หุ้นกู้ที่เสนอขาย HNW จะขายต่อในตลาดรองให้นักลงทุนบุคคลทั่วไปได้ไหม? Prize Bond ตราสารหนี้ลุ้นรับโชค อัพเดต! นิยามใหม่ “ผู้ลงทุนรายใหญ่ (High Net Worth)” มีผลบังคับใช้ 1 ต.ค. 2565 นี้ รัฐบาลอินเดียเตรียมออกพันธบัตรสีเขียวครั้งแรกเพื่อมุ่งสู่สังคมคาร์บอนต่ำอย่างยั่งยืน รัฐบาลแคนาดาร่วมขบวนรักษ์โลก...ออกพันธบัตรสีเขียวครั้งแรก Blue bond...ตราสารหนี้สีฟ้า..รักษ์ทะเล ESG bonds ของไทยใช้เงินหลากหลายและน่าสนใจแค่ไหน? Highlight 2021 "ESG bonds ในอาเซียน+3" 2021 ADB ออก Blue Bond ครั้งแรก...มุ่งสู่สังคมและเศรษฐกิจสีฟ้าอย่างยั่งยืน สรุปภาวะตลาด ESG bond ในอาเซียน+3 Carbon Neutral Bond ตราสารหนี้สีเขียวประเภทใหม่ของจีน แนวโน้มการออก ESG bond ของไทย...กับการก้าวสู่เศรษฐกิจและสังคมที่ยั่งยืน Perpetual Bond กับลักษณะเฉพาะที่ผู้ออกต้องจ่ายดอกเบี้ยสูง โคลอมเบียออก green bond ขายนักลงทุนในประเทศเป็นครั้งแรก สเปนเตรียมออก Green bond เป็นครั้งแรก Sustainability-Linked Bond รุ่นแรกของไทยมาแล้ว ลงทุนในหุ้นกู้ต้องดูเงื่อนไข Covenant Big Tech พาเหรดออก ESG bond ส่องหุ้นกู้ออกใหม่ครึ่งปีหลัง 2021 FACTS ตราสารหนี้เพื่อความยั่งยืนใน ASEAN+3 5 อันดับรัฐวิสาหกิจที่ออกตราสารหนี้สูงสุด (โดยคลังไม่ต้องค้ำ) รัฐบาลแคนาดา เตรียมเสนอขายพันธบัตรสีเขียวเป็นครั้งแรก รู้ไหม ใครถือพันธบัตรรัฐบาลไทยบ้าง ความแตกต่างของ Green, Social และ Sustainability bond รู้จักศัพท์ Bond ที่เกี่ยวกับสัตว์ ยอดการออก ESG bond ในเอเชีย-แปซิฟิก 5 เดือนแรกปีนี้ โตขึ้น 49.5% Amazon.com ไม่ตกขบวนรักษ์โลก ออก Sustainability bond ตราสารหนี้เพื่อความยั่งยืนในมาเลเซีย ตราสารหนี้ (อนุ) รักษ์แรด ความเหมือนที่แตกต่างระหว่างอันดับเครดิตของบริษัท และอันดับเครดิตของหุ้นกู้ ปี 2564 อังกฤษนับหนึ่งพันธบัตรสีเขียว เครื่องมือรักษ์โลกล่าสุด...ตราสารหนี้ส่งเสริมความยั่งยืน (Sustainability-linked Bond: SLB) 2020 เมื่อสายแฟ (ชั่น) แคร์โลก...Chanel และ Burberry ออก ESG bond หุ้นกู้สีเขียวอนุพันธ์...อีกรูปแบบหนึ่งในการรักษ์โลก Covid-19 Response Bonds: ตราสารหนี้สู้โควิด Bond ETF อีกหนึ่งทางเลือกการลงทุนตราสารหนี้ มาตรฐานบัญชีใหม่ TFRS 9 กับตราสารหนี้ (ตอนที่ 2) Pandemic Bond ภารกิจสู้โรค...กับบทเรียนที่ต้องเรียนรู้ เชื้อไวรัสโควิดลามจากคนสู่เศรษฐกิจโลก? มาตรฐานบัญชีใหม่ TFRS 9 กับตราสารหนี้ (ตอนที่ 1) ตราสารหนี้เพื่อสิ่งแวดล้อมและสังคมที่ยั่งยืนในประเทศไทย Green bond ในอาเซียน เมื่อจีนเป็นหวัด ทั่วโลกเลยต้องรับยา…ทางการเงิน ย้อนรอยพันธบัตรทองคำของไทย Sovereign Gold Bond พันธบัตรทองคำแห่งชาติ Gender bonds ตราสารหนี้เพื่อเพิ่มพูนศักยภาพผู้หญิง ผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ The Bodyguard ของนักลงทุน Prize Bond ตราสารหนี้สำหรับคนชอบเสี่ยงโชค 2019 สรุป 10 เหตุการณ์เด่นในตลาดตราสารหนี้ไทยปี 2562 พันธบัตรรัฐบาล Low risk but high return ในปี 2562 เหลียวหลังแลหน้า เงินลงทุนจากต่างชาติในตลาดตราสารหนี้ไทย ฉบับปี 2562 บาดาล The Series ตอนที่ 3/3: กำเนิดบาดาล บาดาล The Series ตอนที่ 2/3: ปูมหลัง บาดาล The Series ตอนที่ 1/3: ความสำเร็จก้าวแรก เขาวานให้(หนู)เป็น...สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย เตรียมช้อป หุ้นกู้ ได้ทุกเดือนในปี 2563 ผลกระทบตลาดตราสารหนี้หลังการเก็บภาษีกองทุน High yield bond จีน:จากผู้ปล่อยก๊าซเรือนกระจกสูงสุดในโลก สู่ผู้นำการออกตราสารหนี้สีเขียว Perpetual bond กับมาตรฐานบัญชีใหม่ 25 ปี ThaiBMA กับการพัฒนาตลาดตราสารหนี้ไทย ตราสารหนี้ฉบับแรกของราชอาณาจักรสยามเพื่อก่อสร้างทางรถไฟสายแรกๆของประเทศ 5 ปี ภาคเอกชนระดมทุนผ่านหุ้นกู้กว่าล้านล้าน!! Perpetual bond คึกคักส่งท้ายปี 62 ทวิตเตอร์ “@realDonaldTrump” กระเทือนไปทั้งโลก…การเงิน งานนี้ต้องติดตาม...สถานการณ์ผิดนัดชำระหุ้นกู้ในประเทศจีน เมื่อเงินทุนไหลออกจากตลาดตราสารหนี้ แต่เงินบาทยังแข็งค่า รู้ยัง! Starbucks ก็ออก Sustainability Bond นะ Dual Currency Bond ตราสารหนี้สองสกุล หุ้นกู้ไม่มีเรทติ้งแต่มีประกัน ปลอดภัยจริงไหม!! Bond Yield ติดลบกินวงกว้างแค่ไหน Bond yield ไทยจะต่ำไปไหน CAT bond: ตราสารหนี้รับมือเหตุภัยพิบัติ เรทติ้ง (Rating) มาจากไหนและบอกอะไรแก่นักลงทุน มาตรการป้องปรามการเก็งกำไรค่าเงินบาทของ ธปท.และผลต่อตลาดตราสารหนี้ไทย จับตา!!! สถานการณ์การผิดนัดชำระหุ้นกู้ประเทศสิงคโปร์ เข้าใจหุ้นกู้ใน 5 นาทีกับ Fact sheet เมื่อดอกเบี้ยสหรัฐฯ เปลี่ยนทิศ แล้วดอกเบี้ยไทยจะอย่างไร? การปรับลดวงเงินประมูลพันธบัตรของธปท.และผลต่อตลาดบอนด์ ครบรอบ 22 ปี วิกฤติต้มยำกุ้ง กับการเติบโตของตลาดตราสารหนี้ไทย โอกาสของผู้ระดมทุนในตลาดหุ้นกู้ไทย Callable bonds ของไทย คุ้มค่าน่าลงทุน? Blue Bond ตราสารหนี้สีฟ้า เพื่อความยั่งยืนของทะเล 2-10 Spread สัญญาณคาดการณ์ภาวะเศรษฐกิจ 1 ปีแห่งการปรับตัวของผู้ออกตั๋ว BE ภาษีกองทุนรวมตราสารหนี้: นักลงทุนจะไปต่อกันทางไหน? Payment-In-Kind Bond เมื่อดอกเบี้ยจ่ายเป็นหมูแฮม ทำไมอยากซื้อ แต่ไม่ได้ซื้อ? Bond Switchingเมื่อถึงเวลาก็ต้อง(แลก)เปลี่ยน STO อีกหนึ่งทางเลือกในการระดมทุนด้วยเทคโนโลยี Blockchain Structured note ผลตอบแทนที่มาพร้อมความผันผวน Composite Bond Index ดัชนีสะท้อนผลตอบแทนการลงทุนในตราสารหนี้ไทย ลูกหนี้รายใหญ่ในตลาดตราสารหนี้ไทย ภาษีการลงทุนในตราสารหนี้ผ่านกองทุนรวม ผลกระทบต่อนักลงทุน Bond Yield ของไทยจะติดเชื้อ Inverted Yield Curve จากสหรัฐฯไหม การค้ำประกันจาก CGIF ช่วยผู้ออกลดคูปองดอกเบี้ยให้ต่ำลง ถอดบทเรียนจากญี่ปุ่นแล้วย้อนมองไทยการออมเพื่อเตรียมเกษียณ (ตอนที่ 2) ถอดบทเรียนจากญี่ปุ่นแล้วย้อนมองไทยการออมเพื่อเตรียมเกษียณ (ตอนที่ 1) Puttable Bond ตราสารหนี้ที่ให้สิทธินักลงทุนในการไถ่ถอนก่อนครบกำหนดอายุ Bond Yield สหรัฐฯกับไทย...ความสัมพันธ์ที่เปลี่ยนไป 10 year challenge ของตลาดตราสารหนี้ Sustainability bond หุ้นกู้เพื่อความยั่งยืนของสังคมและสิ่งแวดล้อม Social Bond พันธบัตรเพื่อสังคมที่เป็นสุข สรุป 10 เหตุการณ์สำคัญของตลาดตราสารหนี้ไทยในรอบปี 2561 D/E Ratio บอกอะไรบ้าง 2018 เตรียมช้อปหุ้นกู้ออกใหม่ปีหน้า..มีอะไรน่าสนใจ เหลียวหลังแลหน้า เงินลงทุนในตราสารหนี้ไทยของต่างชาติ ฉบับปี 2561 จับตาหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดในภาวะดอกเบี้ยขาขึ้น BAHT Bond ทางเลือกการระดมทุนในอาเซียน จับตาหุ้นกู้ชั่วนิรันดร์ของจีน ตลาดตราสารหนี้ไทยเป็น safe haven จริงหรือ Solar Bond ตราสารหนี้พลังงานแสงอาทิตย์ ผลตอบแทนของ Green bond ต่างจากตราสารหนี้ทั่วไปหรือไม่ ตราสารหนี้สีเขียวกับการเติบโตอย่างยั่งยืน การออกหุ้นกู้ของกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ Asian Bonds Online มีดีมากกว่า Fund flow ในตลาดตราสารหนี้ Perpetual bond หุ้นกู้ไม่มีอายุ ใครลงทุนในหุ้นกู้บ้าง ซื้อหุ้นกู้แบบมี Call option นักลงทุนจะได้หรือจะเสียอะไร การวัด Expected return ของตราสารหนี้ ฝากเงินไว้กับธนาคาร หรือลงทุนผ่านตราสารหนี้ดีนะ? หุ้นกู้ Securitization ทางเลือกเพื่อเพิ่มความมั่นใจในการลงทุน ILB ทางเลือกของการลงทุนในภาวะเงินเฟ้อเริ่มขยับขึ้น ซื้อกองทุนตราสารหนี้ แต่ทำไมถึงขาดทุนได้? มารู้จักTransition Matrix โอกาสการผิดนัดชำระหนี้ของหุ้นกู้ ลงทุนอย่างอุ่นใจ ด้วยหุ้นกู้มีประกัน ถ้าอยากซื้อหุ้นกู้เชิญอ่านทางนี้ วางแผนเกษียณสุขใจไปกับตราสารหนี้ การเปลี่ยนแปลงของตลาดตราสารหนี้ภาคเอกชนจากเกณฑ์ใหม่ กลต. ระหว่างสลากออมสิน กับตราสารหนี้ออมอย่างไรให้เหมาะกับเรา รู้จักกับ AMRO องค์กรความร่วมมือเพื่อความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจของอาเซียน+3 ความจริง 5 ข้อของตลาดตราสารหนี้ที่นักลงทุนควรทราบ สัญลักษณ์ตราสารหนี้บอกอะไรมากกว่าที่คิด Credit rating ไม่สูงก็ออกตราสารหนี้ Coupon ต่ำได้ ด้วยการค้ำประกันจาก CGIF Bond Yield สหรัฐฯ สูงขึ้น ดึง Bond Yield ไทยสูงขึ้น ด้วยไหม? Basel III Bond ตราสารหนี้ที่เพิ่มความมั่นคงให้แก่ธนาคาร ติดตามราคาพันธบัตรรัฐบาล ณ วันปัจจุบันได้จากที่ไหนนะ? ดัชนีพันธบัตรรัฐบาล ดัชนีพันธบัตรรัฐบาลประเภทอัตราดอกเบี้ยแปรผันตามการเปลี่ยนแปลงของเงินเฟ้อ สูงหรือต่ำมีความหมายมากกว่าที่คาด แนวโน้มของเทคโนโลยี Blockchain ในตลาดตราสารหนี้ จะสูงหรือต่ำสำคัญอย่างไร Credit spread ผู้ช่วยของ Yield curve ทิศทางของตลาดตราสารหนี้ไทย Yield Curve พระเอกของการลงทุนในตราสารหนี้ Fund flow ในตลาดตราสารหนี้ จับตาการลงทุนของต่างชาติในตลาดบอนด์ Perpetual Bond พิเศษยังไง ทำไมจ่ายดอกเบี้ยสูงจัง ตราสารหนี้บางรุ่นเลื่อนชำระดอกเบี้ยได้นะจ๊ะ มูลค่าการซื้อขายตราสารหนี้ หาได้จากไหน? 2017 ปลายปีอย่างนี้ เป็นจังหวะดีของการลงทุนในตราสารหนี้ไหมนะ ความเข้าใจผิดที่อันตราย “ตราสารหนี้เสี่ยงกว่าหุ้น” Financial Literacy ของไทย อันดับเครดิตต่ำหรือสูง แล้วยังไง มีเงิน 5,000 บาท ลงทุนหุ้นกู้ได้ไหมนะ? หุ้นกู้แปลงสภาพ เจ้าหนี้ที่กลายร่างเป็นเจ้าของได้ (ตอนที่ 2) สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA)คือใคร ทำอะไรกัน? อะไรคือหุ้นกู้แปลงสภาพ (Convertible Bond) (ตอนที่ 1) เลือกตราสารหนี้ให้เหมือนเลือกแฟน “สั้น” หรือ “ยาว” อะไรเร้าใจกว่ากัน (ตอนที่ 2) แม้ดอกเบี้ยจะขาขึ้น ก็ไม่หวั่นลงทุนตราสารหนี้ “สั้น” หรือ “ยาว” อะไรเร้าใจกว่ากัน (ตอนที่ 1) Cross Default ในตราสารหนี้ "หุ้นกู้มีประกัน" เครื่องหมายรับประกันเงินต้นหาย? รู้หรือไม่ พันธบัตรไทยฉบับแรกออกมาเมื่อใด เม็ดเงินต่างชาติในตราสารหนี้ทำบาทแข็งจริงหรือ? กองทุน AI ความเสี่ยงหลัก 5 ข้อในการลงทุนตราสารหนี้ หุ้นกู้ High Yield ลงทุนอย่างไรให้ปลอดภัย แฝดคนละฝา Default กับ NPL 5 เหตุผลหลักของการลงทุนในตราสารหนี้ 20 ปี วิกฤตต้มยำกุ้ง พลิกสู่การเติบโตของตลาดตราสารหนี้ไทย จะซื้อหุ้นกู้ ต้องดู Credit Spread ( ตอนที่ 2) Callable คุณลักษณะพิเศษอย่างหนึ่งของ Bond จะซื้อหุ้นกู้ ต้องดู Credit Spread ( ตอนที่ 1) ตราสารหนี้ฉบับแรกเกิดขึ้นเมื่อไร? Yield Curve ตัวช่วยการลงทุนตราสารหนี้ เมื่ออัตราดอกเบี้ยผันเปลี่ยน มูลค่าของตราสารหนี้ก็ผันแปร Coupon&Yield คู่ซี้ที่แตกต่าง หุ้นกู้ vs. หุ้น สนใจลงทุนตราสารหนี้ ต้องทำอย่างไร ลำดับการชำระหนี้คืน อันดับความน่าเชื่อถือ (Credit Rating) Ultra High Net Worth กลุ่มนักลงทุนใหม่ ขาใหญ่ในตลาดตราสารหนี้ไทย ตราสารหนี้สีเขียว (Green Bond) สิทธิแฝงของตราสารหนี้ (Embedded Option) ตราสารหนี้ที่ออกโดยหน่วยงานเอกชน ตราสารหนี้ที่ออกโดยองค์กรภาครัฐและรัฐวิสาหกิจ ตราสารหนี้ที่ออกโดยกระทรวงการคลัง พันธบัตรชดเชยเงินเฟ้อ (ILB) ตอนนี้น่าลงทุนไหม? Intro to Bond 2016 พันธบัตรชดเชยเงินเฟ้อ....เงินต้นไม่หาย แถมงอกเงยไม่น้อยหน้าเงินเฟ้อ ความอ่อนไหวของเงินทุนจากต่างชาติในตลาดตราสารหนี้ไทย ทำความรู้จักกับหลักเกณฑ์ Basel III และผลกระทบต่อตลาดตราสารหนี้ ตลาดตราสารหนี้ไทยเติบโตรับกระแสเงินทุนไหลเข้าในครึ่งปีแรก 2559 การลงทุนตราสารหนี้ แม้จะปลอดภัย ถ้าไม่เข้าใจ...ก็ขาดทุนได้ การลงทุนในกองทุนตราสารหนี้...ทางเลือกการลงทุนที่ปลอดภัย (ความผันผวนต่ำ) หุ้นกู้ด้อยสิทธิ รู้จักกับ Perpetual Bond 2015 ตราสารหนี้ระยะยาวภาคเอกชน ตราสารหนี้ภาคเอกชนระยะสั้น (Commercial Paper) Infrastructure Fund vs. Infrastructure Bond เงินทุนต่างชาติไหลกลับสู่ตลาดตราสารหนี้ไทย นิยาม “ตราสารหนี้” แบบเข้าใจง่าย "หุ้น" กับ "หุ้นกู้" แฝดคนละฝา ตราสารหนี้ภาคเอกชนไทยเติบโตอย่างมั่นคง (1) ตราสารหนี้ภาคเอกชนไทยเติบโตอย่างมั่นคง (2) คลังบทความ
Posted by:ThaiBMA Posted on:Sep. 27, 2021 Share this post with Perpetual Bond กับลักษณะเฉพาะที่ผู้ออกต้องจ่ายดอกเบี้ยสูง Perpetual Bond เป็นตราสารหนี้ที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน เนื่องจากเป็นตราสารหนี้ที่ให้อัตราดอกเบี้ยสูงกว่าตราสารหนี้ทั่วไปมาก ซึ่งดอกเบี้ยที่สูงนี้ก็มาพร้อมกับลักษณะเฉพาะหรือเงื่อนไขบางอย่างที่ทำให้ตราสารหนี้ชนิดนี้มีความเสี่ยงสูงขึ้นนั่นเอง วันนี้เราจะมาแจกแจงลักษณะเฉพาะของ Perpetual Bond กันทีละข้อ ได้แก่ 1. ไถ่ถอนเมื่อเลิกบริษัท: ตราสารหนี้ทั่วไปจะกำหนดเวลาไถ่ถอนที่ชัดเจน แต่ Perpetual Bond (Perp) จะไม่กำหนดวันไถ่ถอนไว้ โดยผู้ออกจะทำการไถ่ถอนเมื่อเลิกบริษัท ดังนั้นอาจมีอายุยาวนานเป็นร้อยปีก็ได้จึงจะเลิกบริษัท และหากถ้าต้องเลิกบริษัท ผู้ออกก็อาจมีเงินไม่พอที่จะมาไถ่ถอนหุ้นกู้ Perp ก็ได้ นักลงทุนจึงมีความเสี่ยงที่อาจจะได้รับเงินต้นคืนช้ามากๆ หรือได้ไม่ครบจำนวน ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะที่มีความใกล้เคียงกับทุน 2. สิทธิไถ่ถอนก่อนกำหนด: การลงทุนใน Perpetual Bond ที่ไม่มีกำหนดวันไถ่ถอนจึงอาจไม่เป็นที่สนใจของนักลงทุนนัก ดังนั้น Perpetual Bond ส่วนใหญ่จึงกำหนดให้ผู้ออกมีสิทธิไถ่ถอนคืนก่อนกำหนด (Call option) เช่น วันครบกำหนด 5 ปี นับจากวันออกหุ้นกู้หรือวันชำระดอกเบี้ยหุ้นกู้แต่ละครั้ง ภายหลังจากปีที่ 5 โดยปกติผู้ออกมีแรงจูงใจหลายอย่างในการไถ่ถอนก่อนกำหนด แรงจูงใจหลักข้อหนึ่งมาจากหลักเกณฑ์ของบริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่จะนับเป็นทุนครึ่งหนึ่งในช่วง 5 ปีแรก หลังจากนั้นจะถูกนับเป็นหนี้ทั้งจำนวน บริษัทส่วนใหญ่จึงมักจะไถ่ถอน Perpetual Bond เมื่ออายุครบ 5 ปีเพื่อมิให้อัตราส่วน Debt to equity (DE ratio) สูงขึ้น และเพื่อหลีกเลี่ยงอัตราดอกเบี้ยที่จะปรับสูงขึ้นเมื่อครบ 5 ปี ตามที่กำหนดไว้ และที่สำคัญนักลงทุนอาจเกิดความเข้าใจผิดได้ต่อสถานะทางการเงินของบริษัทหากไม่เรียกไถ่ถอนก่อนกำหนด บริษัทจึงมักใช้สิทธิไถ่ถอนก่อนกำหนดและออกหุ้นกู้ Perp รุ่นใหม่มาทดแทน แม้ว่าบางครั้งอัตราดอกเบี้ยจะสูงขึ้นก็ตาม อย่างไรก็ดีในทางกฎหมายบริษัทไม่มีข้อผูกพันที่จะต้องไถ่ถอนก่อนกำหนด ดังนั้นนักลงทุนจึงควรตระหนักถึงความเสี่ยงที่จะได้รับเงินต้นคืนช้า ไม่อย่างนั้น นักลงทุนก็ต้องทำการขายในตลาดรองหากไม่ต้องการถือต่อ ซึ่งตลาดรองของหุ้นกู้ Perp มีสภาพคล่องที่ค่อนข้างจำกัด ทำให้ต้องใช้เวลานานหรือขายได้ที่ราคาไม่ดีตามที่คาดหวัง ทั้งนี้ในทางบัญชีจะถือว่าเงินทุนที่ได้จากการออก Perpetual Bond สามารถนับเป็นทุนได้ทั้งจำนวนตลอดไปถ้าระบุเงื่อนไขการชำระคืนเงินต้นให้เป็นไปตามมาตรฐานบัญชีฉบับที่ 32 กล่าวคือ การชำระคืนเงินต้นจะเกิดจากการชำระบัญชีเพื่อเลิกกิจการเท่านั้น ไม่รวมถึงกรณีที่ผู้ออกล้มละลาย เข้าสู่แผนฟื้นฟูกิจการ หรือถูกพิทักษ์ทรัพย์ 3. สามารถเลื่อนการชำระดอกเบี้ยได้โดยไม่มีเงื่อนไข: ปกติตราสารหนี้ทั่วไปจะต้องจ่ายดอกเบี้ยตรงเวลาที่กำหนดไว้เสมอ แต่สำหรับ Perpetual Bond ผู้ออกมีสิทธิเลื่อนการจ่ายดอกเบี้ยออกไปได้แม้ว่าบริษัทจะมีกำไร ซึ่งเป็นลักษณะที่ใกล้เคียงกับหุ้นบุริมสิทธิที่ถือว่าเป็นส่วนของทุน หุ้นกู้ Perp จึงมีชื่อเป็นทางการว่า “ตราสารหนี้ด้อยสิทธิคล้ายทุน” ทั้งนี้การเลื่อนการชำระดอกเบี้ยนี้จะทำให้นักลงทุนได้ผลตอบแทนเฉลี่ยของการลงทุนต่ำลง ยิ่งถ้าเลื่อนการจ่ายดอกเบี้ยออกไปนานเท่าไรผลตอบแทนเฉลี่ยก็จะยิ่งลดลงมากเท่านั้น แต่หากบริษัทเลื่อนชำระดอกเบี้ยหุ้นกู้ Perp บริษัทจะไม่สามารถจ่ายปันผลให้ผู้ถือหุ้นได้ และการเลื่อนชำระดอกเบี้ยอาจทำให้บริษัทเสียชื่อเสียงได้ ดังนั้นถ้าบริษัทไม่มีปัญหาจริงๆ ก็น่าจะจ่ายดอกเบี้ยตรงตามเวลาที่กำหนดไว้ 4. เป็นตราสารหนี้ด้อยสิทธิ: หมายความว่าหากบริษัทล้มละลาย ผู้ถือตราสารหนี้ด้อยสิทธิจะมีสิทธิเรียกร้องทางกฎหมายในการได้รับชำระหนี้คืนเป็นลำดับที่ 3 ถัดจากผู้ถือตราสารหนี้มีประกัน (Secured Bond) และผู้ถือตราสารหนี้ไม่ด้อยสิทธิ (Senior Bond) ดังนั้นผู้ถือตราสารหนี้ด้อยสิทธิอาจได้รับการชำระคืนไม่เต็มจำนวน หรือหากบริษัทไม่มีทรัพย์สินเหลือเลย ผู้ถือตราสารหนี้ด้อยสิทธิก็อาจจะไม่ได้รับเงินคืนเลย ผู้ถือ Perpetual Bonds จึงมีความเสี่ยงที่อาจไม่ได้รับเงินคืนสูงกว่าตราสารหนี้ทั่วไป 5. หุ้นกู้ Perp ไม่มีคุณสมบัติเรื่องการผิดนัดไขว้ (Cross-default) ที่มักจะกำหนดไว้ในหุ้นกู้ทั่วไป ดังนั้นหากผู้ออกมีการผิดนัดไขว้ หรือมีการผิดนัดชำระหุ้นกู้รุ่นอื่น สัญญาทางการเงินอื่น หรือ เจ้าหนี้อื่น ก็จะไม่ทำให้ผู้ออกเข้าเงื่อนไขของการผิดนัดชำระภายใต้หุ้นกู้ Perp นี้ ดังนั้น ผู้ถือหุ้นกู้ Perp จะไม่มีสิทธิเรียกร้องให้ผู้ออกต้องชำระคืนเงินต้นและดอกเบี้ย ซึ่งจะทำให้ผู้ถือหุ้นกู้ Perp เสียเปรียบเจ้าหนี้รายอื่นเนื่องจากเมื่อผู้ออกผิดนัดชำระหนี้เจ้าหนี้อื่น อาจทำให้เจ้าหนี้รายนั้นมาเรียกร้องให้ชำระหนี้ก่อน ที่อาจส่งผลให้ผู้ออกขาดสภาพคล่อง ผู้ถือหุ้นกู้ Perp จึงมีความเสี่ยงที่จะไม่ได้รับดอกเบี้ยโดยผู้ออกอาจทำการเลื่อนการจ่ายดอกเบี้ยออกไป หรืออาจมีความเสี่ยงถึงขั้นได้รับชำระเงินต้นไม่ครบจำนวนหากบริษัทต้องเลิกกิจการไป จากลักษณะสำคัญทั้ง 5 ข้อที่กล่าวมา จะเห็นได้ว่า Perpetual Bond มีความเสี่ยงสูงกว่าหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิโดยทั่วไป รวมถึงมีสภาพคล่องในตลาดรองค่อนข้างต่ำ นักลงทุนจึงควรเข้าใจถึงความเสี่ยงที่สูงขึ้นเหล่านี้เพื่อจะได้พิจารณาผลตอบแทนให้คุ้มค่ากับความเสี่ยงที่ได้รับ